หนุ่มพบ ดญ. อยู่ตามลำพัง จึงพากลับบ้านให้ภรรยาดูแล 16 ปีผ่านไปเธอแต่งงาน แต่ภรรยาของเขากลับมอบสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิต คิดไม่ถึงจริงๆ!.
16 ปีที่แล้วในคืนที่หิมะตกหนัก พี่ชายกลับมาบ้านหลังจากออกไปล่าสัตว์ เขาไม่ได้สัตว์อะไรติดมือกลับมาเลย แต่บนหลังกลับมีเด็กน้อยอยู่คนนึง พี่ชายไม่พูดอะไรมาก ส่งเด็กหญิงคนนั้นให้พี่สะใภ้ บอกให้ดูแล หาเสื้อผ้าให้ใส่เท่านั้น
พี่สะใภ้มองดูเด็กน้อย แม่จะผมยุ่งหน้าตาเกรอะกรัง แต่ก็ยังมองเห็นดวงตากลมโต ที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา หนูน้อยใส่เสื้อผ้าขาดๆ ใส่รองเท้าผ้าที่ขาดจนหัวแม่เท้าโผล่ออกมาได้แล้ว พอพี่สะใภ้จะถอดรองเท้าให้ ก็พบว่าขาเด็กน้อยแข็งไปแล้ว เลยต้องเอากรรไกรมาค่อยๆตัดรองเท้าออก
หลังจากหนูน้อยอาบน้ำแต่งตัวเข้านอนไปแล้ว พี่สะใภ้ยืนมองแกอยู่ครู่หนึ่ง แล้วคืนนั้นเธอก็ไม่นอนทั้งคืน เพื่อเย็บรองเท้าคู่ใหม่ให้หนูน้อย แกตื่นมาจะได้มีรองเท้าใส่
พี่สะใภ้ตั้งชื่อแกว่าลูกเป็ด หลังจากนั้นแกก็อยู่บ้านเรามาตลอด ครึ่งเดือนต่อมาแกก็ไปโรงเรียนพร้อมเรา โดยพี่สะใภ้เย็บกระเป๋าหนังสือใบใหม่ให้แกด้วย แกเป็นเด็กไม่ค่อยพูด หรือถ้าพูดก็จะมีสำเนียงแปลกๆติดมา
พี่ชายเล่าว่า คืนนั้นหลังจากลงจากเขา เขาก็เดินผ่านบ้านหลังหนึ่งที่ดูไม่มีคนอาศัยอยู่ แต่กลับได้ยินเสียงร้องไห้ลอดออกมา พอเขาเข้าไปดูก็เห็นลูกเป็ดนั่งกอดศพผู้หญิงคนนึงที่ดูท่าว่าน่าจะเสียชีวิตไปหลายวันแล้ว ร้องไห้อยู่ พี่ชายก็เลยช่วยฝังศพให้แล้วก็พาลูกเป็ดกลับมาบ้านด้วย ถ้าพี่ไม่ไปเจอแกวันนั้น แกก็คงหนาวตายไม่ก็หิวตายไปแล้ว
ลูกเป็ดเป็นเด็กฉลาด เรียนรู้เร็ว อันไหนไม่เข้าใจพอเราอธิบายนิดเดียวแกก็อ๋อ ไม่ว่าจะเป็นวันฝนตกแดดออก พี่สะใภ้ก็จะมารับพวกเราที่โรงเรียนเสมอแม้ว่าเธอจะตั้งครรภ์แล้วก็ตาม เนื่องจากเราอายุอ่อนกว่าพี่ชายมาก หลังจากแม่เสียไปก็มีพี่นี่แหล่ะที่ดูแลเรามาตลอด แล้วพอพี่แต่งงานกับพี่สะใภ้เราก็เหมือนได้ขึ้นสวรรค์ พี่สะใภ้ดูแลเราดี เราไม่ต้องใส่เสื้อผ้าขาดๆอีกต่อไป
พอขึ้นมอต้นเรากับลูกเป็ดก็เข้าโรงเรียนประจำ พี่สะใภ้มักจะเดินเท้าเป็นสิบๆโลเพื่อเอาอาหารมาฝากพวกเรา ตอนนั้นเพื่อจะเลี้ยงดูครอบครัวพี่ชายต้องไปทำงานเมืองอื่นเพื่อจะหาเงินให้ได้มากขึ้น ทุกครั้งที่เรากับลูกเป็ดกลับมาบ้านพี่สะใภ้จะทำเต้าฮวยให้กิน เราเห็นหลานชายมองตาไม่กระพริบก็เลยถามว่าอยากกินหรอ แกก็ส่ายหัว
มีอยู่ครั้งนึงเรากลับบ้านมาโดยไม่ได้บอกที่บ้านก่อน พอมาถึงหน้าประตูเห็นบนโต๊ะอาหารมีแต่ไชโป๊ดองให้หลานนั่งกินกับข้าว เราก็น้ำตาซึม ต่อจากนั้นทุกครั้งเวลาพี่สะใภ้ทำเต้าฮวยให้พวกเรากิน เราจะแอบตักใส่ชามหลานด้วย แล้วหลานก็มากระซิบบอกเราว่า (แม่บอกว่าไชโป๊อร่อยกว่าเต้าฮวย แต่ผมว่าเต้าฮวยอร่อยกว่าตั้งเยอะ) พี่สะใภ้บอกพวกเราเสมอว่ากำลังเรียนต้องกินอาหารดีๆ
พอต้องสอบเข้ามอปลาย ลูกเป็ดก็สอบเข้าไม่ได้ แต่เรารู้ว่าแกตั้งใจให้เป็นแบบนั้น แกหัวดีจะตาย หลังจากนั้นแกก็เลยไปทำงานในโรงงานเมืองที่พี่ชายอยู่ ทำงานได้เงินเท่าไหร่ก็แทบจะส่งกลับบ้านหมดไม่เหลือไว้ใช้เองเลย ปีที่เรากำลังจะจบมหาลัย ลูกเป็ดก็แต่งงาน
วันแต่งงานลูกเป็ดนั่งหมอบอยู่แทบเท้าพี่สะใภ้ไม่ยอมลุก จนพี่สะใภ้ต้องดึงแกขึ้นมา จากนั้นพี่สะใภ้ก็ดึงสมุดบัญชีเล่มหนึ่งยื่นให้ ข้างในเป็นเงินตลอดเวลาหลายปีที่ลูกเป็ดส่งกลับมาบ้าน แต่พี่สะใภ้ก็ไม่เคยใช้ แกไม่ยอมรับ แต่พี่สะใภ้ก็ยังยืนยันให้แกเอาไป เพราะแกเพิ่งแต่งงานต้องมีเงินใช้ เอาไปลงทุนเปิดร้านเล็กๆก็ได้ แกก็เลยยอม
เมื่อเสร็จพิธีลูกเป็ดต้องเดินทางกลับไปอีกเมือง พี่สะใภ้ก็เดินออกมาส่งถึงหน้าถนนใหญ่ เห็นดังนั้นลูกเป็ดก็หันมาตะโกนบอกว่า “แม่ กลับเข้าบ้านไปได้แล้ว” พี่สะใภ้น้ำตาคลอ นี่เป็นครั้งแรกที่ลูกเป็ดเรียกเธอว่าแม่ และเธอเองก็รักลูกเป็ดเหมือนลูกแท้ๆ